Cryptocurrency ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในระบบการเงินโลก และบางประเทศได้ก้าวหน้าด้วยการยอมรับหรือทดลองใช้คริปโตในรูปแแบบต่างๆ ทั้งใเชิงกฎหมายและเศรษฐกิจ กรณีศึกษาต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นถึงประเทศที่นำคริปโตไปใช้และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
เอลซัลวาดอร์ (El Salvador)
การยอมรับ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมาย
ในปี 2021 เอลซัลวาดอร์กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่รับรอง Bitcoin (BTC) เป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมาย โดยมีเป้าหมายเพื่อ :
- ลดค่าธรรมเนียมในการโอนเงินระหว่างประเทศ (Remittance)
- เพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับประชากรที่ไม่มีบัญชีธนาคาร (Unbanked Population)
- ดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวที่สนใจเทคโนโลยี Blockchain
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ผลเชิงบวก :
- การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนที่สนใจใน Bitcoin
- ประชาชนบางส่วนได้ประโยชน์จากการเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านแอป Chivo Wallet
- มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุน Blockchain และ Bitcoin
ผลเชิงลบ :
- ความผันผวนของราคาทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ
- การยอมรับ Bitcoin ยังไม่แพร่หลายทั่วประเทศ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ขาดความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้
สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
การสร้าง “Crypto Valley” ในเมือง Zug
เมือง Zug ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการขนานนามว่าเป็น Crypto Valley เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของบริษัท Blockchain และสตาร์ทอัปด้าน Cryptocurrency โดยรัฐบาลสนับสนุนให้ใช้คริปโตในการทำธุรกรรมต่างๆ เช่น การชำระภาษีด้วย Bitcoin หรือ Ethereum
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ผลเชิงบวก :
- ดึงดูดนักลงทุนและสตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยี
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศในด้าน FinTech
- สร้างงานและส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรม
ผลเชิงลบ :
- มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในระบบการเงิน เช่น การฟองเงินผ่านคริปโต
- ความท้าทายในด้านการกำกับดูแลที่ต้องพัฒนาให้ทันเทคโนโลยี
ไนจีเรีย (Nigeria)
การใช้ Cryptocurrency เพื่อเลี่ยงระบบการเงินแบบดั้งเดิม
ไนจีเรียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้ Cryptocurrency สูงที่สุดในโลก โดยประชาชนจำนวนมากใช้คริปโตในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศหรือเก็บมูลค่า เนื่องจากระบบการเงินท้องถิ่นมีข้อจำกัดสูง และค่าธรรมเนียมในระบบธนาคารดั้งเดิมมีราคาสูง
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ผลเชิงบวก :
- ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบการเงินได้ง่ายขึ้น
- ลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ
- กระตุ้นการพัฒนาด้านการเงินในประเทศ
ผลเชิงลบ :
- ความเสี่ยงจากการใช้คริปโตในกิจกรรมผิดกฎหมาย
- ราคาที่ผันผวนของ Cryptocurrency ทำให้ประชาชนบางส่วนสูญเสียมูลค่าเงิน
สาธารณรัฐจีน (China)
การพัฒนา Digital Yuan
จีนไม่ได้ใช้ Cryptocurrency แบบกระจายศูนย์ เช่น Bitcoin แต่ทางรัฐบาลจีนได้พัฒนา Digital Yuan หรือสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC) เพื่อควบคุมและสนับสนุนการใช้งานเงินดิจิทัลในระบบเศรษฐกิจ
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ผลเชิงบวก :
- เพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเงิน
- ส่งเสริมความโปร่งใสในการทำธุรกรรม
- ลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในระดับสากล
ผลเชิงลบ :
- มีข้อจำกัดในเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
- การควบคุมที่เข้มงวดอาจลดความยืดหยุ่นในระบบ
Cryptocurrency มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลก โดยส่งผลทั้งในด้านบวกและลบ ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ของแต่ละประเทศ สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาหรือประเทศที่มีระบบการเงินที่ไม่เสถียรภาพ การนำ Cryptocurrency มาใช้สามารถช่วยแก้ปัญหาการเข้าถึงบริการทางการเงินได้ ขณะเดียวกัน ประเทศที่พัฒนาแล้วสามารถใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อส่งเสริมการลงทุนและนวัตกรรม